วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์บนตัวเจ้าแมวเหมียว


           ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์รักสะอาด แต่ก็ใช่ว่าเจ้าเหมียวของเราจะปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ แมว สามารถมีกลิ่นจากตัวของมันได้ไม่ต่างจากน้องหมา แต่อาจจะน้อยกว่า ซึ่งถ้าหากเป็นกลิ่นเบา ๆ ก็คงจะไม่มีปัญหา แต่ ถ้าเจ้าเหมียวมีกลิ่นแรงผิดปกติเกินไปล่ะก็ คงไม่ดีแน่ ๆ ดังนั้น ให้ลองสังเกตดูว่า กลิ่นเหม็นจากตัวน้องเหมียว มีต้นกำเนิดมาจากอะไร

           ทั้งนี้ กลิ่นจากเจ้าเหมียว อาจเป็นผลมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นปาก อันเนื่องมาจากฟันผุหรือโรคเหงือ, กลิ่นหู ไร ในหู ที่อาศัยอยู่ปะปนกับขี้หู สามารถก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นได้, กลิ่นเหยื่อ บ่อยครั้งที่แมวต้องฟาดฟันกับศัตรูคู่อาฆาตอย่างหนู และกลิ่นของหนูก็อาจติดตัวแมวมาได้, กลิ่นน้ำลาย คราบโปรตีนจากน้ำลายบนขนเจ้าเหมียวที่ถูกขับออกมาขณะเลียขน เมื่อแห้งจะเป็นอาหารของเชื้อแบคทีเรีย ที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นได้ ฯลฯ

           และเพื่อเป็นการป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจทำให้ น้องเหมียว ขาดเสน่ห์ และหมดความน่ารักไปล่ะก็ เจ้าของควรหมั่นตรวจตราสิ่งต่าง ๆ อันอาจก่อให้เกิดกลิ่นได้ โดยแก้ไขตามต้นเหตุที่พบจากคำแนะนำของ สัตวแพทย์ชื่อดัง รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร ดังต่อไปนี้

           หากพบว่าแมวมีกลิ่นปาก ต้องหมั่นดูแลสุขภาพช่องปากเจ้าเหมียว หากทำได้ ควรแปรงฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารและคราบหินปูน

           หากพบว่ากลิ่นมาจากหู เช็ดทำความสะอาดในรูหูและใบหูของแมว ควรเช็ดหูเพื่อขจัดขี้หูตลอดเวลา แต่หากพบว่ามีไรอยู่ให้พาไปพบสัตวแพทย์เพื่อกำจัดอย่างถูกวิธี

           หากพบว่า กลิ่นตัวเจ้าเหมียวแรงเกินพิกัด ให้เช็ดทำความสะอาดร่างกายของแมวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขจัดเศษคราบน้ำลาย รวมถึงแปรงขนเป็นประจำ และหากพบว่าแมวออกเที่ยวนอกบ้าน ควรเช็ดตัวทำความสะอาดเพิ่ม

เรียบเรียงบทความโดยกระปุกดอทคอม
http://pet.kapook.com/view24962.html
ภาพประกอบ  อินเตอร์เนต

แมวกินปลาดิบ ดีไหม ?




คอลัมน์ : Cat Care เรื่อง สพ.ญ.พิไลพร กรองแก้ว
         
          บ้านเมืองเราแต่ก่อนอาหารการกินสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว อาหารประจำชาติของเรามีข้าวเป็นหลัก สมัยก่อนใครเลี้ยงแมวก็ต้องให้กินข้าวคลุกปลาทู ยังไม่มีใครผลิตอาหารเม็ดและอาหารกระป๋องสำหรับแมว
          แต่ปัจจุบันนี้ คนไทยเรามีอาหารให้เลือกรับประทานกันหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่เฉพาะอาหารไทยเสียแล้วสิ ท่านผู้อ่านที่เดินเที่ยวห้างสรรพสินค้าบ่อย ๆ คงจะทราบกันดี ทั้งอาหารฝรั่งพวกพิซซ่า มักกะโรนี สปาเกตตี้ ขนมปัง หรืออาหารเกาหลีจำพวกเนื้อย่างเกาหลี กิมจิ แต่ที่ฮิตสุด ๆ และคนไทยชอบกันมาก เห็นจะเป็นอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะ ซิชิ ข้าวปั้น ต้องยอมรับว่ามันฮิตจริง ๆ หมอจึงนึกเรื่องที่จะเขียนเกี่ยวกับน้องเหมียวขึ้นมาได้เพราะ หมอก็ชอบทานซูชิหน้าปลาดิบเหมือนกัน
          แน่นอนล่ะ เรากินได้ น้องเหมียวก็ต้องมีเอี่ยวมานั่งตาละห้อยขอกินอยู่ข้าง ๆ เป็นใครก็ต้องใจอ่อนยอมให้เจ้าเหมียวลองลิ้มชิมรสดูบ้าง ปรากฎว่าเจ้าเหมียวมันชอบมากทุก ๆ รส และที่ชอบมากที่สุดก็จะเป็น ซูชิหน้าปลาดิบ (เลือกกินแต่เนื้อปลาดิบ ข้าวไม่แตะเลย) เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกัน หมอก็จะขอมาบอกเล่าว่าแมวกินปลาดิบ...จะดีไหมเอ่ย

ข้อดีของการกินปลาดิบ
          คนญี่ปุ่นชอบกินปลาดิบกัน เพราะรสชาติมันหวาน เนื้อนุ่ม วิตามินโปรตีนต่าง ๆ ในเนื้อปลายังอยู่ครบ ไม่ถูกทำลายไปเพราะความร้อนจากการปรุงอาหาร  เขาเชื่อว่ามันเป็นอาหารบำรุงร่างกายชั้นยอด นั่นคือข้อดี แน่นอนว่าที่เจ้าเหมียวชอบกินปลาดิบ ก็คงเพราะรสชาติเนื้อปลามันนุ่ม หวานลิ้น มีกลิ่นคาวเลือดของปลาอยู่ เจ้าของบางท่านเห็นแมวชอบก็ให้กิน เพราะแมวดูเจริญอาหารดี มีความสุข มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียของการกินปลาดิบ ข้อเสียนี้ท่านผู้อ่านต้องอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์ เพราะมันสำคัญมากเลยสำหรับเจ้าเหมียว
ข้อเสียของการกินปลาดิบ
          ท้องเสีย : เนื้อปลาดิบสด ๆ ไม่ได้ผ่านการปรุงอาหารโดยใช้ความร้อนหากมีขั้นตอนในการเตรียมแล่เนื้อปลา ที่ไม่ดี เช่น เขียงไม่สะอาด แล่เนื้อปลาผิดวิธีไปปนเปื้อนกับอุจจาระในลำไส้ของปลาก็มีโอกาสที่จะปน เปื้อนกับอุจจาระในลำไส้ของปลาได้ ทำให้ท้องเสีย และหากเก็บรักษาเนื้อปลาในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมก็จะเป็นสาเหตุให้เชื้อโรค เจริญเติบโตได้ดี พอเราจะกินปลาดิบทีหนึ่งก็กลายเป็นว่ากินเอาตัวเชื้อโรคเข้าไปด้วย
          เชื้อโรคสำคัญที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียจากการกินปลาดิบก็คือ เชื้อแบคทีเรียซึ่งจะมีอยู่ 3 เชื้อสำคัญ คือ เชื้อแบคทีเรียโคลิฟอร์ม หรือ อี.โคไล (Coliform; E.coli) เชื้อซัลโมเนลล่า (Salmonella spp.) และเชื้อวิบริโอ (Vibrio spp.) ทั้ง 3 เชื้อนี้เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง น้องเหมียวตัวใดรับเชื้อเข้าไปโดยการกินทางปากจะมีอาการท้องเสีย อาเจียน ปวดท้อง(คลำท้องแล้วแมวจะเกร็งท้อง)  หากท้องเสียมาก ๆ ร่างกายจะมีอาการขาดน้ำ ตัวแห้งน้ำ อ่อนเพลีย ซึม บางตัวอาจมีไข้ หรือมีอุณหภูมิของร่างกายต่ำก็ได้

การรักษาแมวท้องเสีย
          หมอจะวินิจฉัยตรวจร่างกายก่อนว่าแห้งน้ำไหม มีไข้ไหม และที่สำคัญหมอจะเอาอุจจาระของมวมาส่งอกล้องจุลทรรศน์ดูว่ามีพยาธิไหม พบเชื้อแบคทีเรียจำพวกใด หมอจะได้รักษาให้ยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะ แก้ท้อเสียได้ถูกต้อง แมวตัวไหนแห้งน้ำมาก ๆ หมอจะให้น้ำเกลือร่วมด้วย ท่านผู้เลี้ยงแมวก็ต้องระวังอย่าปล่อยให้มือของท่านเลอะอุจจาระแมวนะจ๊ะ เดี๋ยวเผลอหยิบอะไรกินเข้าปากโดยไม่ล้างมือก็จะทำให้ท่านท้องเสียตามน้อง เหมียวได้
สรุปคือ แมวสามารถกินปลาดิบได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องสะอาด และไม่กินมากจนเกินไป กินพอไม่ให้ตกเทรนด์ก็แล้วกันนะจ๊ะ

สรุปคือ แมวสามารถกินปลาดิบได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องสะอาด และไม่กินมากจนเกินไป กินพอไม่ให้ตกเทรนด์ก็แล้วกันนะครับ

http://pet.kapook.com/view11099.html

ทำไมถึงเรียก แมว 9 ชีวิต

ทำไมถึงเรียก แมว 9 ชีวิต

          ทำไมถึง 9 ชีวิต น่าจะเริ่มมาจากความเชื่อของอิยิปต์โบราณ แมวเป็นสัตว์ที่ได้รับความเคารพตามความเชื่อของอิยิปต์โบราณ ชาวอิยิปต์ที่อาศัยอยู่ที่เมือง Heliopolis นั้นนับถือเทพย์ Atum-Ra เป็นเทพย์สูงสุด คือ สุริยเทพ ผู้เป็นต้นตระกูลแก่ เทพสำคัญๆหลายองค์ ซึ่งเทพผู้ยิ่งใหญ่ 9 องค์ของชาว Osirian ที่เรียกรวมกันว่า "Ennead" นั้นมีดังนี้ Atum , Shu , Tefnut , Geb , Nut , Osiris , Isis , Set , และ Nephthys โดยที่เวลา Atum-Ra นั้นเดินทางไปยังเมืองยมโลก ( Underworld ) จะไปในรูปของแมว โดยที่จะรวมชีวิตทั้ง 9 ร่างไว้ในร่างของผู้สร้างร่างเดียว ( 9 in 1 ) นั่นเอง

         มีบทเพลงสรรเสริญพระเจ้าบทนึง 400 ปีก่อนคริสตกาลได้กล่าวไว้ว่า "O sacred cat! Your mouth is the mouth of the god Atum, the lord of life who has saved you from all taint." หรือแปลได้ว่า " โอ้ ท่านแมวศักดิ์สิทธิ์! ปากของท่านคือปากของเทพย์ Atum เจ้าแห่งชีวิตผู้ซึ่งได้ช่วยท่านให้พ้นจากมลทินทั้งปวง"

         ทั้งหมดนี่น่าจะเป็นที่มาของคำว่า แมว 9 ชีวิต ที่เราได้ยินกันนะ




http://sinblog.wordpress.com/2007/11/05/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95/

ทำหมันแมวดีอย่างไร

              
       หลายคนเข้าใจว่าการทำหมันแมวเป็นการทรมานสัตว์  อยากให้ทำความเข้าใจเสียใหม่  การที่เราปล่อยให้แมววัยเจริญพันธุ์ออกนอกบ้านไปก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เช่น ไปกัดกับแมวอื่นนอกบ้าน ไปสร้างครอบครัวโดยที่เราไม่รู้  ล้วนเป็นเหตุจากฮอร์โมนทั้งสิ้น  ถ้าคุณปล่อยให้เป็นอย่างนั้นต่อไปพึงระลึกไว้ว่า  คุณก็เป็นคนหนึ่งที่มีส่วนทำให้แมวจรจัดเต็มบ้านเต็มเมือง  การที่จะจับขังไว้ไม่ให้ออกนอกบ้านก็อาจลดปัญหาแมวจรจัดได้  แต่ฮอร์โมนที่มีอยู่ก็จะเป็นตัวกระตุ้นให้เจ้าเหมียวของคุณร้องหง่าว ๆ กระวนกระวายไม่สิ้นสุด  ปัญหาสำหรับแมวตัวผู้จะมากหน่อย  คือฉี่ทำอาณาจักรของตัวเองไปเรื่อย  เหม็นไปทั้งบ้าน  การที่ทำหมันซะก็จะทำให้ฮอร์โมนส่วนเกินเหล่านี้หมดไป เจ้าเหมียวก็จะอยู่ร่วมบ้านกับคุณได้อย่างสันติ เมื่อฮอร์โมนหมดไปอาการที่อยากออกไปหาคู่ก็ไม่มี อยู่ติดบ้านได้ง่าย ๆ ไม่ต้องฝืนใจกัน ปัญหาเรื่องลูกแมวยั้วเยี้ยเต็มบ้าน หรือแมวจรจัดก็จะลดลง ประโยชน์นี้ทั้งตัวผู้ตัวเมียเลย ถ้าไม่อยากมีปัญหาเรื่องลูกแมว เรื่องแมวออกนอกบ้าน  หายไปรบกับแมวอื่นทำศึกชิงนาง  ไม่อยากมีส่วนร่วมในการเพิ่มประชากรแมวจรจัด ไม่อยากต้องมารักษาโรคติดต่อซึ่งเกิดจากการกัดกับแมวนอกบ้าน (มีโรคอะไรบ้างต้องติดตาม)  ในเมื่อรักที่จะเลี้ยงแล้วน่าจะรับผิดชอบกับแมวที่คุณรักใช่มั้ยล่ะ 

การเตรียมตัวก่อนการทำหมัน            งดอาหารอย่างน้อย 12 ชั่วโมง งดน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพราะเมื่อวางยาสลบกล้ามเนื้อทุกส่วนจะคลายตัว น้ำและอาหารที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหารอาจไหลย้อนกลับออกมา แล้วเศษอาหารเข้าไปอุดตันทางเดินหายใจได้ 

ที่มา   http://jabchai.com

หางน้องแมว บอกอารมณ์

                  ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารทั้งมนุษย์และสัตว์แบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ ภาษาพูด (ใช้เสียง) และภาษาท่าทาง (เป็นการใช้อวัยวะประกอบในการสื่อสาร) แมวสามารถใช้ หางในการสื่อสาร บ่งบอกถึงอารมณ์ของมัน(เช่น เดียวกันกับสัตว์ชนิดอื่นๆ) ดังต่อไปนี้


ถ้าหางม้วนห้อยลง แต่ส่วนปลายหางม้วนชี้ขึ้น :
แสดงว่าแมวตัวนี้กำลังรู้สึกสบายและผ่อนคลาย 
ถ้าหางของมันยกขึ้นเล็กน้อยและม้วนเล็กน้อยอย่างนุ่มนวล : แสดงว่าแมวตัวนี้กำลังรู้สึกเริ่มที่จะสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ถ้าหางของแมวตั้งขึ้น แต่ปลายหางเอียง ไม่ว่าจะเป็นการเอียงไปข้างหน้า หรือข้างหลัง :
แสดงว่าแมวตัวนี้กำลัง
สนใจและมีความรู้สึกเป็นมิตรต่อสิ่งที่สนใจ
ถ้าหางตั้งตรงและปลายหางตั้งตรงในแนวดิ่ง :
แสดงว่าแมวกำลังมีอารมณ์ดี รู้สึกเป็นมิตร เมื่อได้พบกัน
ถ้าหางของแมวตั้งตรง โดยที่หาง หรือปลายหางกระดิก หรือสั้นอย่างนุ่มนวล :
แสดงว่าแมวกำลังแสดงความชอบ ความรัก (showing affection).
ถ้าหางของแมวอยู่นิ่งๆ แต่จะมีการกระตุกเป็นครั้งคราว : แสดงว่าแมว รู้สึกว่าถูกรบกวน หรือมีความกังวล ทุกข์
ถ้าหางของแมวนิ่ง แต่ปลายหางมีการกระตุกอย่างหนัก : แสดงว่าแมวกำลังรู้สึกโกรธมาก
ถ้าหางของแมวสะบัดอย่างรุนแรงจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง : แสดงว่าแมวกำลังโกรธ*
ถ้าหางแมวเหยียดตรงชี้ขึ้น แต่ขนที่หางลุกชัน :
แสดงว่าThe cat is แมวกำลังดุร้ายก้าวร้าว
ถ้าหางของแมวโค้งและขนตั้งชัน :
แสดงว่าแมวอาจจะตรงเข้าทำร้ายได้ ถ้ามีการกระตุ้นเร้าเพิ่มอีก
ถ้าหางของแมวทอดตัวต่ำลงและลุกพองออก :
แสดงว่าแมวกำลังกลัว
ถ้าหางของแมวยกขึ้นและขนลุกพองออก ทำให้ดูเหมือนมีหางขนาดใหญ่ :แสดงว่าแมวอาจจะ มีความสุขไปกับการวิ่งไล่ขับกันไปรอบๆ
ถ้าหางของแมวลดตัวลงต่ำมาก บางครั้งอาจจะพบว่าซุกอยู่ระหว่างขาหลัง :อาจจะแสดงว่าแมวกำลังยอมแพ้
ถ้าหางของแมวทอดตัวอยู่ด้านใดด้านหนึ่ง และแมวหมอบ หรือย่อตัวอยู่ หรือยกส่วนตะโพกสูงขึ้น : แสดงว่าแมวตัวเมียตัวนั้นพร้อมที่จะรับการผสมพันธุ์ mate.









































ที่มา http://www.vet.ku.ac.th

แมวขาวมณี

แมวขาวมณี



            แมวขาวมณี หรือ ขาวปลอดเป็นสายพันธุ์ที่พบเห็นได้มากสุดในปัจจุบัน เป็นแมวไทยโบราณที่ไม่ได้มีบันทึกไว้ในสมุดข่อย จึงเชื่อว่าเป็นแมวที่เพิ่งกำเนิดในต้นยุครัตนโกสินทร์นี่เอง นิยมเลี้ยงไว้ในราชสำนักครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5 แมวชนิดนี้เป็นที่โปรดปราณมาก ในต่างประเทศนิยมเลี้ยงกันเป็นคู่เพื่อให้ผลัดกันทำความสะอาดขน เป็นแมวที่ค่อนข้างเชื่อง เหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนได้เป็นอย่างดี
           ลักษณะเด่นของขาวมณีคือสีขนและผิวกายขาวสะอาด ขนสั้น นุ่ม รูปร่างลำตัวยาวขาเรียว ทรงเพียวลม ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป หัวไม่กลมโต แต่เป็นทรงสามเหลี่ยมคล้ายหัวใจ หน้าผากแบนใหญ่ หูขนาดใหญ่และตั้งตรงจมูกสั้น ดวงตาจะรีเล็กน้อยนัยน์ตาเป็นสีฟ้าหรือเหลืองอำพันสีใดสีหนึ่งเมื่อนำแมวขาวมณีตาสีฟ้า ผสมกับแมวขางมณีตาสี อำพัน ลูกที่ออกมาจะมีตาสองสี คือ สีฟ้าข้างหนึ่งและสีเหลืองอำพันข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะที่ถูกควบคุมโดยยีนด้อยในแมวขาวมณีแทบทุกตัวจะมีจุดด้อย เช่น ถ้ามีตาสองสีมักมีตาข้างหนึ่งที่ไม่ดี อาจมองเห็นไม่ชัดหรือมองไม่เห็นเลย ถ้าแมวตาสีฟ้ามักจะหูพิการ หรือไม่ได้ยินเสียงมากนัก และแมวตาสีเหลืองอำพันมักมีต่อมขนที่ไม่ดี
          จุดด้อยอีกข้อของแมวขาวมณีคือความไม่ขาวปลอด มีสีใดสีหนึ่งแซมเข้ามา รวมถึงตาสองข้างเป็นคนละสีกัน (Odd eyes) หรือเป็นสีอื่นสีใดที่ไม่ใช่สีฟ้าหรือเหลืองอำพัน ก็ไม่เป็นที่ยอมรับ เช่นเดียวกับขนที่ยาวมากเกินขนาด หางคด หางขอด หางงอและ หางสั้น

ลักษณะเด่น

  • ลักษณะสีขน ขนสั้นแน่นและอ่อนนุ่ม สีขาวไม่มีสีอื่นปน สีผิวหนังเป็นสีขาวปลอดทั้งตัว
  • ลักษณะของส่วนหัว รูปร่างไม่กลม หรือแหลมเกินไป แต่คล้ายรูปหัวใจ ผน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูตั้งใหญ่
  • ลักษณะของนัยน์ตา นัยน์ตาสีฟ้า หรือสีเหลืองอำพัน
  • ลักษณะของหาง หางยาว ปลายหางแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขาวยาวเรียวได้สัดส่วนกับลำ

ลักษณะด้อย

       ขนมีสีอืนปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี


สายพันธุ์
                            
                    มี 2 สายพันธุ์
                                 
                                 - สายพันธุ์ตาสีเหลืองอัมพัน
                                 - สายพันธุ์ตาสีฟ้า

                      
                    ถ้าเอาทั้งสองสายพันธุ์มาผสมกัน จะเกิดเป็นแมวตาสองสี คือข้างหนึ่งสีเหลือง อีกข้างหนึ่งสีฟ้า

ที่มา  http://th.wikipedia.org

แมวเหน็บเสนียด

แมวเหน็บเสนียด






             แมวเหน็บเสนียด เป็นแมวที่พิการมาตั้งแต่กำเนิด โคนหางเป็นสีด่าง เวลานั่งมักเอาหางซ่อนไว้ใต้ก้นเหมือนค่างในป่า มีนิสัยโหดร้าย เที่ยวไล่กัดแมวตัวอื่นอยู่เสมอ ถ้านำมาเลี้ยงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล


ที่มา  http://th.wikipedia.org